#604 ห้ามใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
เนื่องจากมนุษย์ไม่น้อยขาดความสามารถในการดูแลตนเอง ภาครัฐจึงได้ออกกฎหมายมาเพื่อคุ้มครอง หรือช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหา หรือบรรเทาทุกข์ให้ลดลง อาทิ กฎหมายประกันสังคม กฎหมายแรงงาน กฎหมายจราจร กฎหมายครอบครัว กฎหมายล้มละลาย ไม่นานมานี้ประเทศไทยออกกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ก็เป็นที่วิพากษ์อย่างกว้างขวาง และคนส่วนใหญ่ก็ยอมรับ เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัยที่กระทบต่อตนเองและผู้อื่น เทียบเคียงได้กับกฎหมายเมาไม่ขับ แต่มีบางกฎหมายที่ถูกวิพากษ์ก่อนบังคับใช้จริงจนไม่สามารถบังคับใช้ได้ คือ ห้ามนั่งรถเกินกว่าที่กำหนด เช่น ห้ามนั่งท้ายกระบะ หรือห้ามนั่งส่วนแค็บ ซึ่งกระทบความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ทันที
กฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถอยู่ใน พรบ.จราจรทางบก เพราะเชื่อว่าขณะขับรถยนต์ หรือจักรยานยนต์นั้น ต้องใช้สมาธิไปกับเส้นทาง รถบนถนน และผู้คนสองข้างทาง การขาดสติไปเพียงชั่วขณะอาจทำให้เกิดความสูญเสียได้ ล่าสุดมีบทความข่าวว่าผู้เดินถนนใช้โทรศัพท์ทำให้ขาดความระมัดระวังในการข้ามถนนจนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตมาแล้ว ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายมาคุ้มครองผู้คนที่เดินข้างถนน หรือข้ามถนนว่าห้ามใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีที่จะทำให้การเดินทางสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่อตนเองหรือผู้อื่น
ในต่างประเทศมีการศึกษาปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนับพันครั้งจนต้องเข้าโรงพยาบาลที่เกิดจากการแชท ถ่ายภาพเซลฟี่ หรือคุยโทรศัพท์ระหว่างเดินเท้าว่าเกิดขึ้นบ่อย และเป็นอันตรายมากกว่าการแชทขณะขับรถ การแชทขณะเดินจะต้องเดินเป็นเส้นตรงไปยังปลายทาง แต่การก้มดูแป้นพิมพ์ทำให้ขาดสติในการควบคุมให้เดินเป็นเส้นตรงได้ และอาจไปชนกับสิ่งที่ขวางกั้นรวมถึงผู้คนที่เดินอยู่บนถนน ปัญหาเรื่องการใช้โทรศัพท์ขณะเดินเท้าที่ประเทศไทยยังไม่รุนแรง จึงยังไม่มีกระแสมาให้ภาครัฐต้องออกกฎหมายคุ้มครอง ในอนาคตอาจมี พรบ.ห้ามใช้โทรศัพท์ ในขณะข้ามทางม้าลาย เดินอยู่บนทางเท้า ยืนรอรถไฟฟ้า หรือรถเมย์ที่ป้ายก็เป็นได้
http://www.thaiall.com/blog/burin/6237/
https://www.matichon.co.th/news/557015