#594 สมาร์ทซิตี้กับไทยแลนด์ 4.0
กระแสการพัฒนาประเทศในปี 2559 มีการพูดถึงประเทศไทย หรือไทยแลนด์ 4.0 อย่างมาก ที่จะนำไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน มีการใช้เลข 4.0 ในแวดวงอื่น อาทิ การศึกษาไทย 4.0 ท่องเที่ยว 4.0 พาณิชย์ 4.0 ทำให้เห็นถึงกระแสยอมรับการเปลี่ยนแปลง ในปีที่ผ่านมากระทรวงไอซีทีได้สนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และขยายศักยภาพของศูนย์ดิจิทัลชุมชน ซึ่งเป็นอีกเป้าหมายของการพัฒนาประเทศในระดับฐานราก เพื่อรองรับการเติบโต โดยการอัพเกรดศูนย์เหล่านั้นให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น
เมื่อขับเคลื่อนการเป็นไทยแลนด์ 4.0 ย่อมหมายถึงการขยับแต่ละเมืองเข้าสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้ (Smart City) ไปโดยอัตโนมัติ คนในแต่ละจังหวัด อำเภอ หรือตำบลจะเข้าสู่เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น เข้าถึงบริการสาธารณะ เชื่อมโยงข้อมูล ซื้อขายแลกเปลี่ยน รับบริการออนไลน์ มีคุณภาพชีวิตและปลอดภัยมากขึ้น จะเห็นข่าวจับผู้ร้ายโดยใช้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดบ่อยครั้ง กล้องซีซีทีวี (CCTV = Closed-Circuit Television) เป็นอีกตัวอย่างอุปกรณ์ที่จำเป็นในสมาร์ทซิตี้ การติดกล้องในสำนักงาน หรือติดรถยนต์ทุกคันก็เช่นกัน ล้วนเพิ่มความอุ่นใจในการใช้ชีวิตของประชาชนได้มาก ล่าสุดมีข่าวว่าบริษัทประกันยินดีลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์สำหรับลูกค้าที่ติดกล้องวงจรปิดตลอดระยะเวลาที่เอาประกันภัยรถยนต์
การเปลี่ยนแปลงย่อมมีทั้งลด และเพิ่ม สิ่งที่เพิ่ม คือ ความสุข จากผลการจัดอันดับประเทศหรือเมืองที่มีความสุข พบว่าเมืองในประเทศไทยติดอันดับท๊อป แม้จะมีปัญหาภายในประเทศมากมาย แต่ความสุขของคนไทยก็ยังอยู่ในอันดับต้นของโลก การค้าขายในอินเทอร์เน็ตโดยพ่อค้าในชุมชน หรือการใช้เครือข่ายสังคมก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความพยายามเพิ่มบริการเครือข่ายไร้สาย แนวโน้มจากโทรศัพท์บ้านลดลง เปลี่ยน ไปเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้น การใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแทนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบดั่งเดิม การแชร์ฮอตสปอร์ต (Hotspot) จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างเพื่อนกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะโทรศัพท์เครื่องละไม่กี่ร้อยบาทก็สามารถเป็นตัวกระจายสัญญาณได้ เรากำลังอยู่ในสมาร์ทซิตี้แล้ว หรือยังสมาร์ทไม่มากพอ แล้วแค่ไหนที่เรียกว่าพอ
การเปลี่ยนแปลงย่อมมีทั้งลด และเพิ่ม สิ่งที่เพิ่ม คือ ความสุข จากผลการจัดอันดับประเทศหรือเมืองที่มีความสุข พบว่าเมืองในประเทศไทยติดอันดับท๊อป แม้จะมีปัญหาภายในประเทศมากมาย แต่ความสุขของคนไทยก็ยังอยู่ในอันดับต้นของโลก การค้าขายในอินเทอร์เน็ตโดยพ่อค้าในชุมชน หรือการใช้เครือข่ายสังคมก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความพยายามเพิ่มบริการเครือข่ายไร้สาย แนวโน้มจากโทรศัพท์บ้านลดลง เปลี่ยน ไปเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้น การใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแทนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบดั่งเดิม การแชร์ฮอตสปอร์ต (Hotspot) จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างเพื่อนกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะโทรศัพท์เครื่องละไม่กี่ร้อยบาทก็สามารถเป็นตัวกระจายสัญญาณได้ เรากำลังอยู่ในสมาร์ทซิตี้แล้ว หรือยังสมาร์ทไม่มากพอ แล้วแค่ไหนที่เรียกว่าพอ
การเปลี่ยนแปลงย่อมมีทั้งลด และเพิ่ม สิ่งที่เพิ่ม คือ ความสุข จากผลการจัดอันดับประเทศหรือเมืองที่มีความสุข พบว่าเมืองในประเทศไทยติดอันดับท๊อป แม้จะมีปัญหาภายในประเทศมากมาย แต่ความสุขของคนไทยก็ยังอยู่ในอันดับต้นของโลก การค้าขายในอินเทอร์เน็ตโดยพ่อค้าในชุมชน หรือการใช้เครือข่ายสังคมก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความพยายามเพิ่มบริการเครือข่ายไร้สาย แนวโน้มจากโทรศัพท์บ้านลดลง เปลี่ยน ไปเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้น การใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแทนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบดั่งเดิม การแชร์ฮอตสปอร์ต (Hotspot) จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างเพื่อนกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะโทรศัพท์เครื่องละไม่กี่ร้อยบาทก็สามารถเป็นตัวกระจายสัญญาณได้ เรากำลังอยู่ในสมาร์ทซิตี้แล้ว หรือยังสมาร์ทไม่มากพอ แล้วแค่ไหนที่เรียกว่าพอ
|