# 168 ลดอัตราการใช้แหล่งพลังงานจากฟอสซิล
22 ธันวาคม - 28 ธันวาคม 2551
ในยุคที่คนไทยเริ่มตื่นตัวและเห็นพร้องต้องกันว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถแก้ปัญหาหลายเรื่องที่รุ่มเร้ามนุษย์และนับจะรุนแรงขึ้นทุกวัน เป็นหลักให้คนไทยยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตโดยให้ความสำคัญกับ 3 ห่วง คือ ความพอประมาณ ความสมเหตุสมผล ความมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ตั้งอยู่บน 2 เงื่อนไข คือ ความรู้ และคุณธรรม โดยทั้งหมดอยู่บนสายกลาง ปัญหาหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือ ปัญหาการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างไม่คำนึงถึงความพอเพียงที่สอดคล้องกับแนวโน้มของสังคมในปัจจุบันที่ยังตระหนักเรื่องนี้ไม่มากพอ
การประหยัดพลังงานก็เพื่อให้มีพลังงานพอใช้และใช้ได้นานขึ้น เพราะพลังงานส่วนใหญ่ที่เราใช้เป็นแบบใช้แล้วหมดไป โดยแหล่งพลังงานจากฟอสซิลคือพลังงานที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน มีการทำนายว่าพลังงานที่ได้จากฟอสซิลกำลังจะหมดไปจากโลก โชคดีที่มนุษย์ในปัจจุบันจะไม่พบปัญหานั้นในช่วงชีวิตของเรา แต่จะเกิดกับลูกหลานเหลนโหลนของเราอย่างแน่นอน จึงมีความพยายามคิดค้นพลังงานทดแทน เพื่อนำมาใช้แทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิล แต่การลดการใช้พลังงานเป็นวิธีที่สมเหตุสมผล สำหรับการลดหรือประหยัดการใช้พลังงานอาจทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคน เช่น สั่งให้คนอื่นทำ ทำให้คนอื่นดู ดูสิ่งที่คนอื่นทำแล้วคอยชื่นชม หรือไม่ทำอะไรก็ช่วยได้ ขอแต่อย่างทำตัวเป็นจระเข้ขวางครองก็พอ
หลังกำเนิดรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้คันแรก Mercedes Benz Motorwagen ประมาณปีพ.ศ. 2429 เริ่มมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม มีการตั้งปั้มน้ำมัน ขุดเจาะปิโตเลียมและก๊าซธรรมชาติมาใช้ โดยพลังงานหลักที่มนุษย์ใช้ในชีวิตประจำวันมี 3 ชนิด คือ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และถ่านลิกไนต์ โดยน้ำมันถูกจัดว่ามีกำลังขับเคลื่อนสูง มีราคาถูก และปลอดภัยที่สุด วิธีประหยัดพลังงานทำได้หลายวิธี สามารถเริ่มได้ที่ตัวเรา ส่งเสริมให้ผู้อื่นเริ่ม หรือจัดกิจกรรมให้เกิดความตระหนัก เช่น การให้ความรู้รอบด้าน การรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าเพื่อลดการใช้ทรัพยากร ลดก๊าซเรือนกระจก และลดการขนส่ง การเปลี่ยนจากการใช้จอซีอาร์ที (CRT) มาเป็นจอแอลซีดี (LCD) ทำให้ลดพลังงานไฟฟ้าได้มาก การใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอลที่มีส่วนผสมของน้ำมันที่ได้จากพืชก็ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล ซึ่งส่งผลให้มีแหล่งพลังงานจากฟอสซิลถูกใช้งานได้นานขึ้นสำหรับลูกหลานรุ่นต่อไป