1. Panels คือส่วนที่ทำให้ใช้งานเครื่องมือได้ง่าย ควรฝึกปิดเปิด Panel 
2. ถ้ามีปัญหา Panel บางอย่างหาย ให้ Reset to Defaults
3. หาให้พบว่าส่วนใดคือ Tools Panel, Layout Panel, Shape Panel
4. ในหัวข้อนี้ยังไม่ศึกษาส่วนของ Outline Panel, Script หรือ Options
5. ขั้นตอน การสร้างวัตถุให้เคลื่อนย้ายไปถึงตำแหน่งที่ต้องการ
- คลิ๊ก Ellipse ใน Tools Panel (รูปวงกลม)
- วาดวงกลมใน Layout Panel ที่ตำแหน่งมุมบนซ้ายของแผ่นงาน
- เปลี่ยนสีของ Fill ใน Shape Panel เป็นสีแดง
- คลิ๊ก Frame ที่ 1 ใน Timeline Panel ในบรรทัดของ Ellipse 
- คลิ๊ก Add Effect, Move
- ใช้ Mouse ย้าย Ellipse ไปตรงกลางแผ่นงาน จะพบเส้นประแสดงการทิศทางการย้าย
6. จัดเก็บ และทดสอบ
- จัดเก็บ โดยคลิ๊ก Menu Bar, Save ชื่อ Movie1.swi
- ทดสอบ โดยคลิ๊ก Menu Bar, Control, Play Movie (Ctrl + Enter)
- ส่งออกไปไว้ใน c:\Movie1.swf โดยเลือก Menu Bar, File, Export, SWF
- ทดสอบด้วยโปรแกรม IE(Internet Explorer) โดยเปิดแฟ้ม c:\Movie1.swf
7. หยุด Movie ได้ 2 วิธี
- ใน Movie Panel เลือก Stop move at end of movie
- เลือก Scene1 ใน Timeline แล้วกำหนด Add Script, Movie Contorl, Stop()

Script Sample
onFrame (10) {
    stop();
}

แบบฝึกหัด
- สร้างวัตถุ 1 วัตถุ
- กำหนด effect ให้วัตถุ
- ให้มีหลาย effect ต่อกัน

1. ข้อความหนึ่งสามารถมีหลาย effect เพราะมี Timeline ที่ต่างกัน
2. ใน Scene หนึ่ง สามารถมีหลายข้อความแสดงผลใน Frame เดียวกันได้
3. ควบคุมความเร็วค่า Frame Rate ใน Movie Panel ปกติเป็น 12 Frames/sec
4. ขั้นตอน การแทรกข้อความ และใส่ effect
- คลิ๊ก Menu Bar, Insert, Text
- พิมพ์คำว่า HELLO แทน TEXT ใน Text Panel
- Name ของ TEXT เป็น t1 ใน Text Panel
- เปลี่ยนสีข้อความ และขนาดข้อความให้ใหญ่ขึ้น
- คลิ๊ก Frame ที่ 1 ใน Timeline Panel ในบรรทัดของ t1
- คลิ๊ก Add Effect, Slide, In From Left
5. ขั้นตอน การแทรกภาพ และแสดงในเวลาที่กำหนด
- คลิ๊ก Menu Bar, Insert, Image
- คลิ๊ก Frame ที่ 1 ใน Timeline Panel ในบรรทัดของ Image
- คลิ๊ก Add Effect, Remove ทำให้ภาพไม่แสดงผล
- คลิ๊ก Frame ที่ 5 ใน Timeline Panel ในบรรทัดของ Image
- คลิ๊ก Add Effect, Place ทำให้ภาพเริ่มแสดงผลใน Frame ที่ 5
แบบฝึกหัด
- มี 4 ตัวอักษร (A,B,C,D) กำหนดตำแหน่งให้อยู่ตัวละมุมบนแผ่นงาน
- เมื่อเวลาเดินไป ให้ตัวอักษรย้ายตนเองไปรวมกันกลางแผ่นงาน
- เมื่อรวมกันแล้ว ให้ย้ายกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม
- แทรก Image เข้าไป และควบคุมการแสดงผล เมื่ออักษรมารวมกันครบ

1. button มี state ให้ควบคุมเช่น Up/Over/Down/Hit เป็นต้น
2. การสร้างปุ่มควบคุม scene อาจใช้เพียง Text และ on(release) ก็ได้
3. ขั้นตอน การแทรก Scene และแทรก Shape และกำหนด effect ให้กับ Shape
- คลิ๊ก Ellipse ใน Tools Panel (รูปวงกลม)
- วาดวงกลมใน Layout Panel ที่ตำแหน่งมุมบนซ้ายของแผ่นงาน
- เปลี่ยนสีของ Fill ใน Shape Panel เป็นสีแดง
- คลิ๊ก Ellipse ใน Tools Panel (รูปวงกลม)
- วาดวงกลมใน Layout Panel ที่ตำแหน่งมุมล่างขวาของแผ่นงาน
- เปลี่ยนสีของ Fill ใน Shape Panel เป็นน้ำเงิน
- คลิ๊ก Menu Bar, Insert, Scene
- คลิ๊ก Menu Bar, Insert, Scene
- เพิ่ม shape และทำให้แตกต่างกัน ให้กับทั้ง 3 Scene
- กำหนด move ให้กับ shape ในทุก Scene
4. ขั้นตอนการสร้างปุ่ม Next ไป Scene ถัดไปด้วย copy Button
- นำแฟ้ม .swi มาแก้ไขต่อ เพื่อสร้างปุ่มควบคุม Scene
- ไปตำแหน่ง Frame 11 ของแต่ละ Scene แล้วกำหนด Movie Control เป็น stop()
คำสั่งใน Script จะได้ onFrame (11) { stop(); }
- ไป Scene 1 แล้วคลิ๊ก Menu Bar, Insert, Text พิมพ์คำว่า Next แทนข้อความเดิม
- กำหนด Text ใน Text Panel เป็น Static Text
- กำหนดชื่อให้ Text เป็น bnext
- เปิด Script Panel แล้วเพิ่ม Script, Events, Button, on(release)
เลือกคำสั่งอัตโนมัติจาก Add Script, Movie Control, gotoAndPlay, nextSceneAndPlay()
คำสั่งใน Script จะได้ on (release) { nextSceneAndPlay(); }
- คลิ๊ก menu bar, Modify, Convert, Convert to Button
- Right Click บน bnext แล้ว Copy Object
- คลิ๊ก Scene 2 แล้ว paste Object จะได้ bnext ไว้ใช้
- คลิ๊ก Scene 3 แล้ว paste Object จะได้ bnext ไว้ใช้
- เท่านี้ก็จะมีปุ่ม Next ให้ใช้ทุก Scene
5. ขั้นตอนการสร้าง Text : Next ไป Scene ถัดไปใน Scene แรก
- สร้าง 3 Scene ที่มี Shape และ stop() ปิดทุก Scene
- Insert Scene จะได้ Scene 4 ให้ย้ายมาอยู่ก่อน Scene 1
- คลิ๊ก Scene 4 แล้วคลิ๊ก Menu Bar, Insert, Text พิมพ์คำว่า Next แทนข้อความเดิม
- กำหนด Text ใน Text Panel เป็น Static Text
- กำหนดชื่อให้ Text เป็น bnext
- เปิด Script Panel แล้วเพิ่ม Script, Events, Button, on(release)
เลือกคำสั่งอัตโนมัติจาก Add Script, Movie Control, Play()
คำสั่งใน Script จะได้ on (release) { Play(); }
- คลิ๊ก Scene 4 แก้ใน Scene Panel โดยคลิ๊ก Checkbox : Use this scene as a background
- เท่านี้ก็จะมีปุ่ม Next ให้ใช้ทุก Scene เพราะท้ายทุก Scene เป็น stop()

1. ใส่เสียงทั้งแบบ Insert Content หรือ SoundTrack ต่าง Import เข้ามาทั้งคู่
- Insert Content แฟ้ม Mp3 จะเข้ามาเป็น Action Script
- Insert Soundtrack แฟ้ม Mp3 จะเข้ามา Frame มีระยะเวลาใน Timeline
2. นำภาพ bgstar.gif เข้าไปจะสร้างแต่ละภาพแยกเฟลมอัตโนมัติ
- คลิ๊ก Menu Bar, Insert, Image เลือกได้ 3 แบบ
- แบบ One object per frame in a group คือ นำภาพเข้าวัตถุแยก frame แต่ไม่แยก timeline
- แบบ Animated sprite คือ นำภาพเข้าไปใน sprite และแยก timeline อัตโนมัติ
- แบบ New scene คือ นำภาพเข้าไปใน scene ใหม่ และแยก timeline อัตโนมัติ
3. Swishmax ยังไม่ยอมให้ import avi หรือ mpg เข้าไป ถ้านำเข้าต้อง convert เป็น swf ก่อน
- Option 1 : http://www.my-dvd-creator.com/video2flash.htm (3 MB)
- Option 2 : http://www.blazemp.com/screenshots.html (16 MB)
- หลังจากพยายามนำภาพยนต์ หรือวีดีโอเข้าไป พบว่า .swf ไม่เหมาะกับการใช้แฟ้มเหล่านี้
4. ขั้นตอนการสร้าง Slide Image จากหลายภาพ
- Download ภาพจาก http://www.thaiall.com/face/babyface.htm
- คลิ๊ก Menu Bar, Insert, Image เลือก 4 ภาพ
- คลิ๊กที่ frame 1 ของภาพที่ 1 เลือก Add Effect, Place
- คลิ๊กที่ frame 2 ของภาพที่ 1 เลือก Add Effect, Disappear from position, Fade- Burn Out(20)
- คลิ๊กที่ frame 22 ของภาพที่ 1 เลือก Add Effect, Remove
- ทำ Effect กับอีก 3 ภาพให้เหมือนภาพที่ 1
- กด Shift ค้าง เลือกทุก Effect ของภาพที่ 2 แล้วย้ายทั้งหมดไปเริ่ม frame 23
- กด Shift ค้าง เลือกทุก Effect ของภาพที่ 3 แล้วย้ายทั้งหมดไปเริ่ม frame 45
- กด Shift ค้าง เลือกทุก Effect ของภาพที่ 4 แล้วย้ายทั้งหมดไปเริ่ม frame 67
- ทำให้ Scene นี้ใช้จำนวน Frame ทั้งหมด 89 Frame
- ปรับขนาดของ Scene เป็น 200 Pixels * 280 Pixels ให้เท่ากับภาพหญิงสาว

1. ขั้นตอนการสร้างปุ่มวงกลมไป Scene ถัดไป
- นำ Shape รูปวงกลม (Ellipse) จาก Tools Panel มาไว้บนแผ่นงาน
- Fill Color เป็นสีแดง
- เพิ่ม Script, Events, Button, on(release) ให้กับวงกลมเป็น 
on (release) { nextSceneAndPlay(); }
- คลิ๊กที่ Frame 1 ของ Scene กำหนด movie control เป็น stop()
- คัดลอก Scene นี้ไปอีก 5 Scene และเปลี่ยนสีของวงกลมเป็นอื่นทุก Scene
- insert Scene ใหม่ แล้วเขียนคำว่า END ใน Text ของ Tools Panel
- คลิ๊กที่ Frame 1 ของ Scene 6 กำหนด movie control เป็น stop()
- คลิ๊ก Scene 1 เปลี่ยน Label เป็น first
- คลิ๊ก Scene 6 แล้วคลิ๊กที่ Text Object
- เพิ่ม Script, Events, Button, on(release) ให้กับ Text เป็น 
on (release) { nextSceneAndPlay(); }

2. นำเข้า ellipsenext.swi ไม่พบปัญหา เมื่อเลือกแบบ New scene
- เลือก Insert, Content, ellipsenext.swi
- ถ้าเลือก Animated sprite หรือ One object.. จะพบปัญหา Script เกี่ยวกับ Scene
- ถ้าเลือก New scene จะใช้งานได้ตามปกติ

3. นำเข้า ellipsenext.swf สามารถนำมาใช้ได้ในระดับหนึ่ง
- นำเข้า Shape มาครบ ทำให้นำมาปรับปรุงได้ง่าย 
- การจัดระเบียบ Scene ไม่เหมือนที่เคยสร้างไว้
- ถ้าเลือก Include decompiled scripts จะพบข้อผิดพลาดในบางกรณี

1. ขั้นตอนการสร้างปุ่มหลายปุ่ม
- นำแฟ้ม ellipsenext.swi มาแก้ไข
- นำ Text จาก Tools Panel มาไว้บนแผ่นงาน พิมพ์ 3 ใน Webdings Font ได้ลูกศร Back
- นำ Text จาก Tools Panel มาไว้บนแผ่นงาน พิมพ์ 4 ใน Webdings Font ได้ลูกศร Front
- ปรับขนาด และตำแหน่งวงกลมในแต่ละ Scene ให้เห็นความก้าวหน้าจากการ Click ลูกศร
- คลิ๊ก Scene 6 เปลี่ยน Label เป็น last และ Scene 1 เคยตั้งเป็น first แล้ว
- คัดลอก Text และใส่ Script ตามความเหมาะสม เช่น
on (release) { prevSceneAndPlay(); }
on (release) { nextSceneAndPlay(); }
on (release) { gotoAndPlay("first"); }
on (release) { gotoAndPlay("last"); }
on (release) { gotoAndPlay(5); }
on (release) { gotoSceneAndPlay("last", 5) }
2. นำเข้าภาพ computer.gif มาเป็น frame
- ไม่เลือก background เพราะเป็นพื้นดำ
- เลือกมาเป็นกลุ่มแบบ Sprite
- ขนาดของ .gif ใกล้เคียงกับ .swf มาก ตัวอย่างนี้ขนาด 3 KB

computer.gif


computer.swf

1. สร้าง 3 Text คือ คำถามเช่น 5 + 6 = 10 คำว่า ถูก และคำว่า ผิด
2. ทั้ง 3 Text มีชื่อเป็น question, right และ wrong
3. ใน Text ผิด ให้มี code ด้านล่างนี้ แต่ใน ถูกให้ลบบรรทัดที่เขียนว่า r = r + 1; ออก
on (release) { r = r + 1;
nextSceneAndPlay(); }
4. ใน Scene_1 ให้กำหนดค่าเริ่มต้นให้กับ r และควรมีคำสั่งนี้ใน Scene_1 เท่านั้น
onLoad () { r = 0; }
5. Copy Scene และ Paste Scene แล้วเปลี่ยน โจทย์เป็น 7 + 2 = 9
6. ใน Text ถูก ให้มี code ด้านล่างนี้ แต่ใน ผิดให้ลบบรรทัดที่เขียนว่า r = r + 1; ออก
on (release) { r = r + 1;
nextSceneAndPlay(); }
7. ถ้าคัดลอก Scene_1 มาเป็น Scene_2 ให้ลบ onLoad() ของ Scene_2 เพื่อไม่ให้กำหนดค่าเริ่มต้นซ้ำ
8. ให้ insert scene ขึ้นมาใหม่ แล้วสร้าง Text ชื่อ result เป็นแบบ dynamic
9. เขียน Script ใน scene_3 ให้ result = r ใน onLoad() 
10. ทุก Scene กำหนด Movie Control เป็น Stop ใน Scene
11. กำหนด Stop playing at end of movie ใน Movie Panel 
12. สร้าง Text ใหม่ใน Scene_3 แสดงคำว่า Back
13. คำสั่งใน on (release) ของ Back คือ gotoAndPlay("Scene_1");

1. วางแผนสร้างข้อสอบ เติมคำ อย่างง่าย
2. สร้าง 3 Text คือ 5 + 6 = ? และ ช่องว่างรับค่า และ ปุ่ม Send
3. ทั้ง 3 Text มีชื่อเป็น question, answer และ send
4. ทั้ง 3 Text เป็นแบบ Static, Input และ (Dynamic หรือ Static)
5. สำหรับ answer เลือกเป็น black border with white background
6. Script ของ Scene_1 
onLoad () { r = 0; answer = ""; }
7. Script ของ text ชื่อ Send
on (release) {
if (answer == "11"){ r = r + 1; }
nextSceneAndPlay();
}
8. เพิ่ม Movie Control เป็น stop() ใน frame สุดท้ายของทุก scene
9. copy scene_1 เป็น scene_2 เพื่อเพิ่มข้อสอบข้อใหม่
10. ลบ r = 0; ใน onLoad() ตั้งแต่ Scene_2 เป็นต้นไป แล้วแก้โจทย์ และคำตอบในปุ่ม Send
11. copy scene เป็นข้อต่อไป และแก้ไขตาม scene_2
12. scene สุดท้ายสร้าง text ชื่อ result แบบ dynamic 
13. กำหนดให้ result = r ใน onLoad() ของ scene สุดท้าย
14. คำตอบ (answer) เป็น ภาษาไทย ที่มีสระไม่ได้ 
- คำที่ใช้ใน input text ไม่ได้ เช่น ไก่ น้ำ ข้าง งู
- คำที่ใช้ใน input text ได้ เช่น กบ มด ขาว ลาย
- input text รับภาษาไทยขณะทดสอบไม่ได้ ต้องทดสอบใน .swf

1. วางแผนสร้างข้อสอบ สุ่มจากอาร์เรย์
2. ข้อมูลภาษาไทยเกี่ยวกับสระ มีปัญหาเมื่อใช้ input หรือ dynamic
3. ทั้ง 3 Text มีชื่อเป็น question, answer และ send
4. ทั้ง 3 Text เป็นแบบ Dynamic, Input และ Dynamic
5. สำหรับ answer เลือกเป็น black border with white background
6. มี Scene_1 เพียง 1 scene แต่ใช้ตัวแปร และอาร์เรย์เปลี่ยนค่าเข้ามาแสดงผล
7. ใน onLoad() กำหนดข้อสอบในอาร์เรย์ไว้ 5 ข้อ สำหรับข้อที่ต้องรับ สระอา จะมีปัญหาบ้าง
onLoad () {
r = 0;
i = 0;
ar =new Array;
ans =new Array;
ar[i] = "1 + 2 = ?"; 
ans[i]= "3"; 
i++;
ar[i] = "7 + 8 = ?"; 
ans[i]= "15"; 
i++;
ar[i] = "What is a cat in thai?"; 
ans[i]= "แมว"; 
i++;
ar[i] = "What is a fish in thai?"; 
ans[i]= "ปลา"; 
i++;
ar[i] = "What is a pen in thai?"; 
ans[i]= "ปากกา";
i++;
}
onFrame (1) {
j = random(i);
question = ar[j];
answer = "";    
}
onFrame (2) {
    stop();
}

8. ปุ่ม Send ทำหน้าที่ตรวจคำตอบ เปลี่ยนคำถาม และไป frame 1 ใหม่
on (release) {
if (answer == ans[j]){
  r = r + 1;
}
i = i - 1;
ar[j] = ar[i];
ans[j] = ans[i];
if (i == 0)
nextSceneAndPlay();
else
gotoSceneAndPlay("<current scene>",1);
}

9. Scene ที่สองมีเพียง text แบบ dynamic ชื่อ r รับคะแนนจาก scene แรก
10. กำหนดให้ result = r ใน onLoad() ของ scene ที่สอง

1. สร้างภาพยนต์เรื่อง พระอาทิตย์ของฉัน
- สร้างภูเขา ด้วย Bezier Tool และ Reshape เลือก smooth ตามจุดที่ปรากฎ
- สร้างพระอาทิตย์ ด้วย Ellipse Tool และใช้ Motion path กำหนดตำแหน่งโคจร
- สร้างเมฆ ด้วย Ellipse Tool ซ้อนกัน แล้ว Group เป็น sprite
- เพิ่ม effect: move ให้กับเมฆ เพื่อให้ขยับ ขณะพระอาทิตย์โคจรผ่าน
- สร้างถนน ด้วย Pencil Tool ให้คดเคี้ยวบนภูเขา
- สร้างรถยนต์ด้วย Rectangle Tool และใช้ Motion path กำหนดเส้นทาง
- ใช้ Rotate Tool กำหนดให้รถหันหัวไปตามเส้นทางอย่างถูกต้อง
2. สร้างภาพยนต์เรื่อง แก้วน้ำตก
- สร้าง Shape 3 Shape ทำให้เป็นแก้วไวน์
- เลือกทั้ง 3 Shape แล้ว Grouping : Group as Group เพื่อให้จัดการได้ง่าย
- ย้ายจุดศูนย์กลางมาอยู่ฐานแก้วด้านขวา แล้วกำหนด move แบบ rotate ให้เป็นแก้วตก
- กำหนด Use this scene as a background ให้กับ Scene_1 ใน Scene Panel
- Insert Scene และวาด Ellipse สีดำ
- ทำให้ดูเหมือนไหลออกจากแก้ว และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ต้องใจเย็น ๆ
- ปุ่ม Replay สร้างใน Scene แรก แต่ใช้ได้ในทุก Scene

1. สร้าง Scene_1 ใช้แสดง Preload
2. สร้าง Scene_2 ใช้แสดงผลหลังจบ Preload ตัวอย่างนี้วาดรูปวงกลมให้เห็น 1 วง
3. กำหนด Stop playing at end of movie ใน Movie Panel 
4. สร้าง Shape รูปสี่เหลี่ยม 2 Shape สีแดง และสีดำ ซ้อนทับกันอยู่
5. กำหนด move ขนาด 60 frame เปลี่ยนขนาดของสีแดง ให้ขยายจนทับสีดำ เมื่อครบ 60 frame
6. สร้าง Text ชื่อ t แบบ Dynamic ไว้รับค่า และแสดง % ของการ Load 
7. onEnterFrame() ของ Scene_1 สำหรับ เพิ่มค่าให้ text ชื่อ t
t = int(_root._currentframe / 60 * 100); 
8. สามารถใช้ตัวแปร _totalframes คือ จำนวน Frame ทั้งหมด สามารถนำมาใช้กำหนด Preload ได้

1. การใช้ Script อย่างง่าย
1.1 สร้าง Text ชื่อ c1 ถึง c3 ตามลำดับ โดยค่าเริ่มต้นเป็น A B และ C
- Text แบบ Static ใช้ on (release) ได้
- Text แบบ Dynamic เปลี่ยนค่าได้
- Text แบบ Input รับค่าจากแป้นพิมพ์ได้ และเปลี่ยนแปลงค่าได้ 
1.2 สร้าง Shape ที่มี Script จัดการกับ c2
on (release) { if (c2 == "Z") c2 = "A"; else c2 = chr(ord(c2) + 1); }
- ord() ใช้แปลงตัวอักษร เป็นรหัส Ascii
- chr() ใช้แปลงรหัส Ascii เป็นตัวอักษร
1.3 onLoad() ของ Scene_1 ให้ค่าเริ่มต้นของ c2 เป็น  c2 = chr(random(26) + 65);
1.4 การใช้ _alpha ใน on (release) ของ c1
_alpha คือค่าความเข้มของวัตถุ ถ้ากำหนด _alpha = 10 จะมีสีเพียง 10% ของทุกวัตถุ
ถ้ากำหนด target ให้กับ c1 และกำหนด c1._alpha = 10 ก็จะมีผลเฉพาะกับ c1 เท่านั้น
on (release) {
if (c1._alpha < 10) c1._alpha = 100; else c1._alpha = c1._alpha - 20;
}
1.5 สร้าง Scene_2 และ Scene_3 มีวัตถุที่ move 10 frames 
1.6 เพิ่ม movie control : stop() ต่อ frame สุดท้ายในทุก scene
1.7 เพิ่ม c3 = _totalframes; ใน on (Load) ของ Scene_1
2. การทดสอบโปรแกรมนี้มี on (release) 2 ตำแหน่ง
2.1 เมื่อคลิ๊ก วงกลมสีแดง ทำให้ c2 เปลี่ยนไป
2.2 เมื่อคลิ๊ก ตัวอักษร A ทำให้สี หรือ _alpha ลดลง

1. สร้าง Shape รูปวงกลม 3 object และ Text Object สำหรับบันทึกคะแนน
2. สามารถใช้ Mouse หยิบลูกสีข้ามเส้น แล้วคะแนนจะเพิ่ม
3. Script ของ Scene_1 เพื่อกำหนดค่าเริ่มต้น
onLoad () { b = 0; }
4. Script ของ Shape แต่ละก้อน
on (press) {
if (b==0) {
  ball1.startDragUnlocked();    
  b=1;
} else {
  ball1.stopDrag();       
  b=0;
  if (ball1._X > 70) {
    score.text = int(score.text) + 1;
  } else {
    score.text = int(score.text) - 1;    
  }
}  
}

1. ตัวอย่างการทำงานร่วมกันของ sendv.swf เป็นตัวส่ง และ index.php เป็นตัวรับ
- ให้สร้าง text แบบ input text และกำหนดเป็น target
- ให้ variable ของ text เป็น a และ default value = abc
- Script ของ shape เพื่อสั่งเปิดเว็บเพจ
on (release) {
getURL("http://www.yonok.ac.th/?x=" + a.text ,"_blank");
}
- Script ของ index.php ใน http://www.yonok.ac.th แสดงค่าที่รับจาก sendv.swf
<? echo $_REQUEST["x"]; ?>
- ตัวอย่างนี้ทดสอบใน SwishMax ไม่พบปัญหา แต่ถ้า export แล้วทดสอบผ่าน C:\ จะใช้งานไม่ได้
- ต้องทดสอบกับ Web Server ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกับคำสั่ง Javascript("alert('Wrong')"); 
2. ตัวอย่างแสดงการส่งค่าจาก sendv.swf ไปให้ v.php เพื่อเก็บลงแฟ้ม v.txt
- สร้างแฟ้ม sendv.swf เพื่อนำนาที และวินาที ส่งให้ v.php นำไปจัดเก็บลงแฟ้ม
- Script ของ sendv.swf
onLoad () { t = new Date();
x = t.getMinutes();
y = t.getSeconds();    
loadVariables("http://127.0.0.1/v.php","get"); }
- Script ของ v.php นำค่า x และ y เขียนลงแฟ้ม v.txt แบบ append
<? $x = fopen("v.txt","a");
fputs($x,$_GET["x"].":".$_GET["y"]."\n");
fclose($x); 
?>
3. จากตัวอย่างขั้นต้น อาจเปลี่ยน v.php ให้ทำหน้าที่ส่งอีเมล โดยรับข้อมูลจาก .swf
<? mail($to,$subject,$msg,$from); ?>

1. สร้าง Text แบบ Input Text หรือ Dynamic Text ชื่อ d
2. Script ของ Shape ใน on (release) และใน onLoad() ของ Scene_1
fscommand("GetValueOf","d");
3. ถ้า Refresh แล้วไม่เปลี่ยน ให้ล้างใน Internet Options, Temporary Internet Files
4. ทดสอบโปรแกรมได้ 2 วิธี
http://127.0.0.1/getfs.htm?d=ดอมดมดอก
http://127.0.0.1/getfsm.htm (จะเรียก getfs.htm ผ่าน iframe)
5. Script ของ getfs.htm
<html><script type="text/javascript" language="JavaScript">
<!--
// http://forums.swishzone.com/lofiversion/index.php?t6171.html
var isInternetExplorer = navigator.appName.indexOf("Microsoft") != -1;
function getParameter(paramName) {
    var currentUrl = window.location.search
    var strBegin = currentUrl.indexOf(paramName+"=") + (paramName.length+1)
    var strEnd = currentUrl.indexOf("&",strBegin)
    if (strEnd==-1) strEnd = currentUrl.length
    return currentUrl.substring(strBegin,strEnd)
}
function getfs_DoFSCommand(command, args) {
 var getfsObj = isInternetExplorer ? document.all.getfs : document.getfs;
 if (command=="GetValueOf") {
   getfsObj.SetVariable(args,getParameter(args));
 }
}
//-->
</script>
<script type="text/vbscript" language="VBScript">
<!--
Sub getfs_FSCommand(ByVal command, ByVal args)
 call getfs_DoFSCommand(command, args)
end sub
//-->
</script>
</head><body>
<object>
<embed name=getfs src=getfs.swf
width=400 height=300></embed>
</object>
</body></html>

6. Script ของ getfsm.htm
<body bgcolor=#ffffdd>
<form action=getfs.htm method=get target=getfs>
<input name=d><input type=submit>
</form>
<iframe name=getfs src=getfs.htm?d=hello width=600 height=600>
</iframe>

1. สร้างแฟ้ม v.txt ไว้ใน Root Directory มีขนาด 11 Bytes
a=5&b=6&c=7
2. Script ของ Scene_1 ใน onLoad() สำหรับ Load แฟ้มข้อมูล
loadvariables("v.txt","get");
หรือ loadvariables("http://127.0.0.1/v.txt","get");
ทดสอบดูค่าของ a ใน debug panel ด้วย trace(a);
3. Script ของ Shape รูปวงกลม สำหรับ คำนวณ และส่งค่าให้กับ text ทั้ง 3
on (release) {
x.text = a + b + c;
y.text = a;
z.text = int(x.text) + int(y.text);
}

1. ส่งข้อมูลจาก x.htm ให้ x.swf แสดงผล ตามค่าที่ส่งไป
2. Script ของ x.htm
<object>
<embed src=x.swf width=100 height=80 FlashVars</object>
3. สร้าง Text ชื่อ textinswishmax ใน x.swi หรือ x.swf เพื่อรับตัวแปรจาก FlashVars
4. Script ของ x.swf คือ on (release) { textinswishmax = a + b; }

1. โปรแกรมลบข้อความจากรายการคำศัพท์ที่แสดงด้านบน เมื่อพิมพ์คำศัพท์ด้านล่างแล้วกดปุ่ม Enter
2. Script ของ text ชื่อ in สำหรับ ควบคุมเหตุการณ์ เมื่อกดปุ่ม enter
on (keyPress("<Enter>")) {
l = length(in.text);
d = dsp.text; 
i = d.indexof(in.text);
f1 = d.substr(0,i);
f2 = d.substr(1 + i + l,length(d));
if (l > 0 && i > -1) { dsp.text = f1 + f2; }
in.text = "";
cnt.text = length(dsp.text);
}
3. Script ของ text ชื่อ replay สำหรับ ส่งโจทย์ใหม่เข้าไปใน dsp.text
on (release) {
dsp.text="world"+chr(13)+"hat"+chr(13)+"computer"+chr(13)+
"windows"+chr(13)+"status"+chr(13)+"microsoft"+chr(13)+"education";
cnt.text = length(dsp.text);
}
4. Text มี 4 Object: in, replay, cnt, dsp เป็นแบบ input, static, dynamic, dynamic
5. กำหนด Font ภาษาไทย เช่น CordiaUPC จะทำให้แสดงผลภาษาไทยได้
6. กำหนด Text ของ in ไม่เป็น Render Text ทำให้ตัวอย่างนี้รับภาษาไทยไม่ได้
7. ต้อง Clear Temporary Internet Files เมื่อทดสอบอีกครั้งใน IE

1. สร้าง Text ชื่อ in และกำหนด Render Text และให้ X=Y ใน Transform Panel
2. ยกเลิกการ Stop playing เมื่อจบ Movie เพื่อให้ Movie ฉายซ้ำอย่างไม่สิ้นสุด
3. ยกเลิก Mutiline text ของ Advance Option ใน Text Panel ของ in ป้องกันการรับหลายบรรทัด
4. สร้าง 3 Text ทำหน้าที่รับค่า แสดงเป้าหมาย และผลการเปรียบเทียบ ด้วย in, dsp และ debug
5. Script ของ Scene_1
onLoad () {
wrd = 0;
i = 0;
s = new array();
s[i++] = "one"; s[i++] = "ไม้ไผ่"; s[i++] = "น้ำหวาน"; s[i++] = "ไข่ไก่";
s[i++] = "วิหก"; s[i++] = "รู้ที่"; s[i++] = "ต๊กโต"; s[i++] = "eight";
twrd = i;
_root.dsp.text = s[wrd];
_root.dsp._Y = 5;
}
6. Script ของ Text ชื่อ in สำหรับ แก้ปัญหา Render Text และรหัสภาษาไทยแบบ 14 และ 1
onChanged() {
  c = in.text;
  c1 = c.split(">");
  if(c1.length > 2) {
    c2 = c1[2].split("<");
    c = c2[0];
  }
  x = "";
  for(i=0;i<length(c);i++){
    if (ord(substr(c,i,1)) >47) {    
      x = x + "" + ord(substr(c,i,1));
    } else {
      if (ord(substr(c,i,1)) == 14){ i = i + 1; }        
      x = x + "" +  (ord(substr(c,i,1)) + 160); 
    }    
  }
  xin = x;
  c = _root.dsp.text; 
  x = "";
  for(i=0;i<length(c);i++){ x = x + "" + ord(substr(c,i,1)); }
  xdsp = x;
  debug.text = xin + chr(13) + xdsp;
  if (xin == xdsp) {
    wrd = wrd + 1;
    if (wrd == twrd) { wrd = 0; }
    dsp.text = s[wrd];
    _root.dsp._Y = 5;   
    in.text = "";
    debug.text = "";
  }    
}
onEnterFrame() {
  _root.dsp._Y += 1;
}

7. ค่าของ text เมื่อทดสอบใน Swishmax ไม่ส่ง HTML Code ออกมาเหมือนการทดสอบใน IE สำหรับ Render Text
8. ตัวอย่างค่าที่ได้จาก text แบบ Render Text เมื่อรับใน IE แต่ไม่พบใน Debug ด้วย trace ของ Swishmax
<P ALIGN="LEFT"><FONT FACE="CordiaUPC" SIZE="16" COLOR="#000000" 
LETTERSPACING="0" KERNING="0">a</FONT></P>
9. พบว่าค่าจาก ord() ที่เป็นภาษาไทยแต่ละอักษร จะได้ 14 และ 1 สำหรับ ก ส่วน ฮ จะได้ 14 และ 46
10. การปรับขนาดของ Text ให้คลิ๊กที่จุดเขียว แทนจุดขาว หลังกำหนด X=Y ใน Transform Panel
11. ทดสอบรับภาษาไทยของ Text ใน Swishmax พบปัญหาการแสดงผลเป็นสี่เหลี่ยม แต่ไม่พบปัญหาเมื่อทดสอบใน IE
12. ต้อง Clear Temporary Internet Files เมื่อทดสอบอีกครั้งใน IE

String
เช่น trace("abc".length); // 3
{string}.charAt({position})
{string}.charCodeAt({position})
{string}.concat({string...})
{string}.indexOf({substring})
{string}.indexOf({substring},{start})
{string}.lastIndexOf({substring})
{string}.lastIndexOf({substring},{start})
{string}.length
{string}.slice({start},{end})
{string}.split()
{string}.split({sep})
{string}.split({sep},{limit})
{string}.substr({start})
{string}.substr({start},{length})
{string}.toLowerCase()
{string}.toUpperCase()
{string}.trim()
{string}.trimLeft()
{string}.trimRight()
{string}.fromCharCode({ascii})

Math
เช่น trace(Math.random());
Math.abs(number) 
Math.ceil(number) 
Math.degrees(radians) 
Math.floor(number) 
Math.max(number,number...) 
Math.min(number,number...) 
Math.Pi 
Math.pow(base,power) 
Math.radians(degrees)  
Math.random()   
Math.randomInt(max) 
Math.randomRange(lo,hi) 
Math.round(number) 
Math.sign(number) 
Math.sqrt(number) 

Events ..
Frame Events
onFrame ()
onLoad ()
onEnterFrame ()
Button Events
on (press)
on (release)
on (rollOver)
on (rollOut)
on (dragOver)
on (dragOut)
on (releaseOut)
on (keyPress)
Self Events
onSelfEvent (press)
onSelfEvent (release)
onSelfEvent (rollOver)
onSelfEvent (rollOut)
onSelfEvent (dragOver)
onSelfEvent (dragOut)
onSelfEvent (releaseOut)
onSelfEvent (keyPress)
onSelfEvent (mouseEvent)

พื้นฐาน
1. SwishMax รุ่นล่าสุด คือ 2006.06.29 ขนาดประมาณ 10 MB (?bw)
2. ถ้า SwishMax export เป็น .swf แล้วมีปัญหา ได้ พื้นดำ หรือกลับหัว ให้หามาติดตั้งใหม่
3. แฟ้ม .swi ที่สร้างด้วย swishmax 2004.09.10 จะเปิดด้วยรุ่น 2003.09.03 ไม่ได้
4. คำสั่ง Javascript("alert('Wrong')"); ต้องเรียกใช้ใน Server เช่น http://127.0.0.1/x.htm
5. โดยปกติจะ import .avi, .wmv หรือ .mpg เข้า swish ไม่ได้ ต้องแปลงเป็น .swf ก่อน
6. สามารถ export movie ออกเป็น .swf, .exe หรือ .avi ได้
7. จำนวน Frame มีสูงสุดได้เพียง 16000 เท่านั้น
8. ไม่พบปัญหา Case Sensitive ทั้ง ฟังก์ชัน หรือชื่อ Label
9. แฟ้มที่แทรกเข้ามาผ่าน Content เช่น .gif .swi .swf .mp3 .jpg .wav .txt
10. กฎเกี่ยวกับ Place และ Remove ที่เกี่ยวกับการควบคุมการแสดง Object
    - ถ้ากำหนด Place หลัง frame 1 จะไม่แสดง Object ก่อนจุด Place
    - ถ้ากำหนด Remove ก่อน frame สุดท้าย จะไม่แสดง Object หลังจุด Remove

    สร้า web link โดย Right Click on Object, Script, Events, Button, on (release)

    เช่น getURL("http://www.yonok.ac.th/score.php?right=1","_blank");

    ใน Script Panel เลือกแสดง event outline pane ได้ ทำให้ทราบว่ามี Script คุมอะไรแล้วบ้าง
    ความหมาย

    Key Frame คือ Frame สุดท้ายของ Effect

    sprite คือ ภาพยนต์ในภาพยนต์ เช่น รวม object เป็น sprite แล้ว

    - เวลาของ object ใน sprite ต่างกับเวลาของ sprite

    - Make instance คือ คัดลอกภาพยนต์ออกมาเป็น instance ทำให้นำไปใช้ได้ง่าย

    - เมื่อเปลี่ยนวัตถุใน sprite จะทำให้วัตถุใน instance เปลี่ยนไปด้วย

    - ระวัง! อย่างเปลี่ยนชื่อของ sprite ถ้ามี instance เรียกใช้ sprite อยู่

    instance คือ ตัวแทนของอีกวัตถุหนึ่ง

    - เมื่อ grouping วัตถุเป็นกลุ่ม ถ้าตั้งชื่อก็จะเป็น instance ทันที

    - การรวมเป็น group จะแก้ไขวัตถุ หรือสร้าง movie ใน group ไม่ได้ แต่ถ้าเป็น sprite จะทำได้

    text คือ Text Object สำหรับรับข้อมูล หรือแสดงตัวอักษร มี 3 แบบ คือ static, dynamic และ input

    - ถ้ากำหนด Auto-size height ใน Dimensions จะขยายความสูงมากกว่าข้อมูล default text ไม่ได้

    - ถ้ากำหนด Black border with white background ใน Advanced จะได้สีดำบนพื้นขาว

    - ถ้าเปลี่ยน Scale ของ text ต้องไปกำหนด Transform ให้ x=y อีกครั้ง

    - ถ้าจะใช้ on(release) กับ text ต้องไม่กำหนด selectable ใน Advanced

    - ถ้า Font ไม่เป็น True Type Font เช่น _typewriter จะเลือก Font type ไม่ได้

    - ถ้า Font เป็น True Type Font เช่น CordiaUPC และไม่เป็น Render จะเลือก Font type ได้
    ตัวอย่างสคริปต์

    โปรแกรมแรก คือ onLoad () {trace("hello world");} ใน Scene_1 แสดงผลใน Debug Panel

    ตัวอย่างเกี่ยวกับวันเวลา
    t = new Date();
    thisMonth = t.getMonth();
    months = new Array('Jan', 'Feb', 'Mar', 'Apr', 'May', 'Jun', 'Jul', 'Aug', 'Sep', 'Oct', 'Nov', 'Dec');
    mlength = new Array('31', '28', '31', '30', '31', '30', '31', '31', '30', '31', '30', '31');
    monthName = months[thisMonth];
    monthLength = mlength[thisMonth];

    ตัวอย่างทำซ้ำ เช่น for (i = 0; i <= 5 ; i++) { trace(i); }

    ตัวอย่างทำซ้ำ เช่น a = 1; while (a++ < 5) { trace(a); } // 2345

    ตัวอย่างอาร์เรย์ เช่น ar =new Array; ar[0] = "abc";

    ตัวอย่างสั่งเปิด Notepad เช่น fscommand("Exec","c:/windows/notepad.exe");

    ตัวอย่างการคำนวณ โดยกำหนดให้ a = 11; และ b = "22";

    trace(a + "987"); // 11987 trace(a ADD 987); // 11987 trace(a + 987); // 998

    trace("987" + b); // 98722 trace(987 ADD b); // 98722 trace(987 + b); // 1009

    trace(a + b); // 33

    ตัวอย่างฟังก์ชันแปลง URL Encodeing เป็นตัวอักษร (พบปัญหาเมื่อใช้ fscommand + URL + javascript)

    onload() { trace(chrconvert("%A1%B2")); }

    function chrconvert(chget) {

    chout = "";

    ch1 = chget.split("%");

    for (i=1;i<ch1.length;i++){

    ch2 = ((ord(substr(ch1[i],0,1)) - 64) * 16) - 16;

    ch3 = ch2 + 160 + int(substr(ch1[i],1,1));

    chout = chout + chr(ch3);

    }

    return(chout);

    }
    ข้อมูลเพิ่มเติม

    คำสั่งซ่อน Mouse คือ Mouse.hide(); และ Mouse.show();

    แฟ้มเสียงนำเข้าได้ 2 แบบ และที่ได้รับความนิยมคือ .mp3 เช่น 9970.mp3

    - แทรกเสียงแบบ Soundtrack จะเป็น Object ใน Scene (จำนวน frames ขึ้นกับความยาวเสียง)

    - แทรกเสียงแบบ Script ทำงานใน onFrame(1){Playsound("x.mp3");} (ปรับจำนวน Frames ได้)

    - แทรก Soundtrack 1 แฟ้มต่อ Timeline แต่แทรก Playsound ได้หลายครั้งในแต่ละ Scene ได้

    - การใช้ Sound ดูรายชื่อแฟ้มจาก Content Panel ซึ่งประกอบด้วย Sounds, Images และ Sprites

    การนำเข้าภาพจากภายนอก เมื่อเรียกใช้ภาพหลายครั้ง ขนาดแฟ้ม .swi ไม่เพิ่มมาก หรือนำเข้าผ่าน Content Panel

    ฟังก์ชันที่ทำให้วัตถุเลื่อนตาม mouse คือ startDragUnlocked(); และ stopDrag();

    การรวมกลุ่มวัตถุ (Grouping) มี 4 แบบ

    - Group as Group : ย้ายตำแหน่ง Object ภายในไม่ได้ แต่เขียน event คุม Object ได้

    - Group as Button : กำหนดหน้าที่แต่ละสถานะได้ และย้ายตำแหน่ง Object ภายในไม่ได้

    - Group as Sprite : ย้ายตำแหน่ง Object ภายในได้ และมี Timeline ของตนเอง

    - Group as Shape : วัตถุทั้งหมดรวมเป็น Object เดียวอย่างสมบูรณ์

    กฎเกี่ยวกับ _xscale, _yscale, _X, _Y, _width และ _height

    - _xscale และ _yscale คือ % เทียบครั้งสร้างใหม่ สามารถคืนค่าด้วย Shape._xscale=100;

    - Shape._X คือ ตำแหน่งของ Anchor ตามแนวตั้ง (Pixels) และ _Y คือแนวนอน

    - Shape._width คือ ความกว้าง และ _height คือ ความสูง

    เกี่ยวกับ variable และ text object และ target

    - กำหนด variable ชื่อเดียวกับ text object ได้ และสัมพันธ์เป็นตัวเดียวกันทันที

    - Swish 2004 ขึ้นไปไม่ยอมให้กำหนด variable และกำหนด target ให้ text object พร้อมกัน

    - การใช้ variable สามารถเลือกได้ 3 แบบ 1.ไม่ซ้ำกับ text object 2.ไม่ target 3.ใช้ .text ทุกครั้ง

    a ="5"; trace(a); โดยไม่ซ้ำกับ text object หรือผูกกับ text object โดยตรง

    a.text="5"; trace(a.text); ที่มี checkbox ใน target

    การเลือก Show the event outline pane เพื่อแสดงรายชื่อฟังก์ชัน
    โดยเลือก Checkbox ใน Menu bar, Tools, Preferences, Script Editor หน้า Show all object

ฟังก์ชันเกี่ยวกับเวลา
t = new Date();
hour = t.getHours();
minute = t.getMinutes();
second = t.getSeconds();
todayDate = t.getDate();
thisMonth = t.getMonth();
thisYear = t.getFullYear();
trace(thisYear);

แบบของการส่งออกมี 4 แบบ
- SWF
- HTML + SWF
- EXE
- AVI (>256 Colors)

Button มี 4 สถานะ
- Up State
- Over State
- Down State
- Hit State

การอ้างถึง Text Object
a.text += "a";
this.a.text += "b";
_root.a.text += "c";
_level0.a.text += "d";
_parent.a.text += "e";

/samples (2006)
- Tutorials
- Beginner
- Intermediate
- Advanced

อ้างถึงชื่อ object
onLoad () {    
for(i=0;i<=2;i++){    
eval("x" + i)._X=i * 50;
}
}