จาก http://www.kapook.com/hilight/main/1846.html
วิพากษ์"ประกวดนางงาม" หญิงไทย"แค่ดอกไม้ประดับ"??
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์มติชน
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องชินหูชินตาสังคมไทยไปหรือยัง สำหรับการจัดประกวดนางงามที่มีอยู่กลาดเกลื่อนสังคมไทย เริ่มจากเวทีใหญ่ๆ แต่ละปีมีเวทีให้สาวๆก้าวขึ้นเวทีประกวดประขันกันถึง 3 เวที ทั้งนางสาวไทย มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส และมิสไทยแลนด์เวิล์ด ส่วนเวทียิบย่อยไม่ต้องเอ่ยถึงอีกนับสิบเวที อาทิ เวทีมิสทีนไทยแลนด์ เวทีสาวเปรียว เวทีดัชชี่บอย-เกิร์ล ฯลฯ แต่ละเวทีมีสาวๆแห่ไปสมัครนับร้อยคน
ถ้ามองลึกลงไปถึงเวทีตามต่างจังหวัด ยิ่งน่าตกใจ เอาแค่จังหวัดใหญ่ อย่างภูเก็ต แต่ละปีมีเวทีนางงามผุดขึ้นมาถึง 11 เวที อาทิมิสบิ๊กไบด์ ธิดาบาร์เบียร มิสสปอร์ตเดย์ หรืออย่างจังหวัดเชียงใหม่ มีเวที นางสาวเชียงใหม่ ธิดาร่มบ่อสร้าง นางงามบุปผาชาติ นางงามบ้านถวาย เทพีสงกรานต์ ธิดาลาบ ธิดาสตอเบอรี่ ธิดาลิ้นจี่ ธิดาลำใย ธิดาส้ม จังหวัดลำพูนไม่น้อยหน้ามีธิดาผลิตผลตำบลไทย ธิดาลำไย นางสาวลำพูน ฯลฯ
ทำไมมันเยอะอย่างนี้ เมื่อแห่กันจัดประกวดนางงามแล้วเกิดอะไรขึ้น!!!
ประการแรก สาวไทยหลงใหลได้ปลื้มกับการขึ้นเวทีประกวด เพราะนอกจากจะเป็นบันไดไต่ไปสู่บันไดดาวแล้ว ตำแหน่งนางงามยังเป็นฐานในการสร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ และสร้างความเลิศเล่อให้กับตัวเอง
สังเกตุได้จากทุกเวทีที่จัดประกวดนางงามมีสาวๆแห่ไปสมัครกันหลายร้อยคน ยิ่งพักหลังเปอร์เซ็นต์ของผู้สมัครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนเวทีใหญ่อย่างดีมีคนให้ความสนใจไปสมัครประมาณ 100 คนเศษ แต่ปัจจุบันนี้แต่ละเวทีมีจำนวนคนสมัครกว่า 200 คนแล้ว และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ประการที่สอง ผู้หญิงกลายเป็นกลยุทธทางการค้าไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว ผู้หญิงดูไม่ต่างอะไรไปจากสินค้าที่เรียกให้คนมาดู มายลผลิตภัณฑ์ที่งดงาม เมื่อดูเสร็จก็กลับบ้านไม่ได้มีประโยชน์อะไรไปมากกว่านี้เลย ยิ่งในเวทีตลาดต่างจังหวัดผู้หญิงหลายคนที่ฝันอยากจะสวมมงกุฎ แต่สุดท้ายก็ต้องตกเป็นสินค้าสังเวยตัณหาของมนุษย์ไปโดยปริยายก็มีให้เห็นกันมากมาย
ประการที่สาม กระแสของการประกวดผลักดันให้เกิดเวทีประชันความงามกันสะเปอะสะปะไปหมด อาทิ "นางงามพิการ"ที่จับผู้หญิงพิการทางร่างกายเช่นแขนด้วน ขาด้วนมาแต่งชุดไทยขึ้นเวทีประชันความงาม "มิสคานทอง" ซึ่งเป็นเวทีที่เฟ้นหาหญิงโสดมาสวมสายสะพายเพื่อตรอกย้ำความไม่มีคู่ หรือกรมราชทัณฑ์ก็ยังเคยออกไอเดียอยากจัดประกวด"นางงามคุก"ตามกระแสกับเขาด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นกระแสการประกวดยังระบาดไปถึงบรรดาสาวประเภทสอง ซึ่งปัจจุบันมีเวทีให้พวกเธอได้ปลดปล่อยความเป็นหญิง อาทิ มิสอัลคาซาร์ มิสทิฟฟานี่ที่พัทยา มิสคานิวาสที่ขอนแก่น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเกิดอะไรขึ้น บรรดาชายสองใจที่ยังลังเลว่าจะเดินเส้นทางไหนดี เลยแห่มาเปิดตัวเป็นสาวประเภทสองกันยกใหญ่
แต่ที่ย่ำแย่ที่สุด คือ จับเด็กมาประกวดนางงาม ล่าสุดจับเอาเด็กวัย 3-12 ปีมาใส่ชุดว่ายน้ำเดินโชว์โฉม พร้อมมีรางวัลต่างๆมาล่อใจ อาทิ รางวัลผิวสวย เซ็กส์ซี่บอดี้ รางวัลผมสวย เมื่อมีการแข่งขันเด็กจึงแสดงความสามารถกันอย่างเต็มที่ ท่าทีของหนูๆไม่ผิดเพี้ยนไปจากผู้ใหญ่เลย ทั้งยืนโพสต์ท่า การเดินบิดก้นซ้ายทีขวาที หรือแม้แต่การโพสต์ท่าเซ็กส์ซี่ ยั่วยวนก็มีให้เห็นกัน สิ่งที่ทำไม่ใช่ความผิดของหนูๆเลย เพราะผู้ใหญ่ต่างหากที่จับท่าทาง"แก่แดด"เหล่านั้นใส่ลงไปในตัวเด็ก
แม้ผู้จัดจะบอกว่าการจัดประกวดครั้งนี้ก็เพื่อต้องการนำเสนอความน่ารัก ความสดใสของหนูน้อย
ก็ใช่!!แต่อย่าลืมว่าในเมื่อเหรียญยังมีสองด้าน สังคมก็มีสองด้านเช่นกัน การนำเด็กๆมาใส่ชุดว่ายน้ำแล้วเดินโชว์โฉม โพสต์ท่าบนเวทีอาจเป็นการยั่วยุอารมณ์ของพวกมีจิตวิปริตในทางอ้อมก็เป็นได้ เพราะที่ผ่านมาสังคมไทยสะเทือนใจกับข่าวหนูน้อยไร้เดียงสาถูกข่มขืนมานับไม่ถ้วนแล้ว อะไรก็ตามที่มีส่วนส่งเสริมปัจจัยให้เกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ก็ไม่ควรทำ ที่สำคัญเด็กวัย 3-12 ปี มีสิ่งต่างๆที่น่าจะนำมาแสดงความสามารถมากกว่าการประกวดทรวงทรงองค์เอวอีกเยอะ
เมื่อกระแสของการประกวดนางงามมันแรงจนหยุดไม่อยู่เช่นนี้จะมีอะไรบ้างไหมที่จะมาเป็นตัวสะกัดกั้นให้การจัดประกวดนางงามมีความเหมาะสม มีคุณค่า มีความพอดี ไม่ใช่ว่าใครอยากจัดอะไรก็จัดเพราะที่ผ่านมามีเด็กสาวมากมายหลายคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หวังแค่จะได้ก้าวขึ้นเป็นนางงามกับเขาบ้าง
แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเดินเข้าสู่วงจรอุบาทว์โดยไม่รู้ตัวก็มีให้เห็นถมไป หรือจะมีวิธีอะไรที่ต่อยอดหลังจากที่คนเหล่านี้เดินเข้าสู่เส้นทางนางงามแล้ว พวกเขาควรจะทำประโยชน์อะไรให้กับสังคมบ้าง
เพราะทุกวันนี้บทสรุปของนางงามดูไม่ต่างอะไรไปจากดอกไม้สวยสดที่ถูกเลือกให้มาปักแจกัน เมื่อถึงวันเหี่ยวเฉาก็เอาดอกไม้ดอกใหม่มาปักสลับเวียนกันเรื่อยไป
10 ข้อ ที่ สุนัข ดีกว่าผู้ชาย
http://board.narak.com/topic.php?Category=narak&No=28651
1. สุนัขคิดถึงคุณเวลาคุณไม่อยู่บ้าน
2. สุนัขรู้สึกผิดเวลาทำอะไรผิดพลาด
3. สุนัขไม่วิจารณ์เรื่องเพื่อนของคุณ
4. สุนัขไม่รู้สึกอึดอัดหรือกดดันกับความฉลาดของคุณ
5. คุณสอนสุนัขได้
6. คุณไม่ต้องกังวลเมื่อสุนัขของคุณละเมออะไรแปลกๆ
7. สุนัขเข้าใจว่า ไม่ หมายถึงอะไร
8. สุนัขเข้าใจว่า เพื่อนของมันไม่มีสิทธิ์เข้ามาในห้อง
9. สุนัขวัยกลางคนไม่ทิ้งคุณไปหาเจ้าของใหม่ที่เอ๊าะกว่า
10. สุนัขจูบคุณด้วยความจริงใจทุกครั้ง
|