กระดานแสดงความคิดเห็น
Home
Contents
Articles
Quiz
Members
Sponsor
Print-friendly
MENU
ปรับปรุง : 2566-10-15 (กระดานแสดงความคิดเห็น)
เว็บเพจหน้านี้สำหรับผู้ดูแลเท่านั้น
รหัส secure
=>
นำตัวอักษร สีขาวบนพื้นแดง มาป้อนในช่องนี้
edit_topic_password =>
เคยมีคนกล่าวว่าสุขภาพที่ดีหาซื้อด้วยเงินไม่ได้ ต้องทำด้วยตนเอง เช่น เลือกกิน เลือกดื่ม และออกกำลังกายที่ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ ผู้คนในชนบทมีสุขภาพแข็งแรง เพราะออกไปเก็บผักปลอดสารพิษด้วยตนเอง ยิงนก ตกปลา เก็บของป่าตามอัตภาพ จึงมีร่างกายกำยำร่ำสัน สุขภาพจิตก็ดี เพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน มีเรื่องในละแวกบ้านให้ชวนกันคุยชวนกันคิดอยู่เสมอ ต่างกับคนในสังคมเมืองที่เดินขึ้นตึก 3 ชั้นก็บ่นว่าเหนื่อย บ้านอยู่ติดกันไม่เคยทักทายกันก็มี ส่วนความรู้ก็เช่นกับสุขภาพเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ ต้องใช้เวลาเรียนรู้ เก็บเกี่ยวความรู้ด้วยทักษะการฟัง คิด ถาม และเขียน เพื่อพัฒนาฐานข้อมูลความรู้ในตัวเองให้ชัดเจนอยู่เสมอ แต่คำว่าความรู้ในกรณีนี้ต่างกับใบรับรองความรู้ เพราะเราพบว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ใบรับรองความรู้ (Certification) จากบางองค์กรหาซื้อได้ด้วยเงิน และใบรับรองบางฉบับไม่มีวันหมดอายุ แต่ความรู้ต้องใช้เวลาสำหรับการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความรู้ให้เกิดความชัดเจนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และความรู้อาจเสื่อมคลายไปตามเวลา หากขาดการทบทวนอย่างสม่ำเสมอ
การหาความรู้ด้านไอทีด้วยการฟัง หรือการอ่านไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มความรู้ด้านนี้ จะต้องฝึกปฏิบัติด้วยการทดลอง ลองผิดลองถูกซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเกิดความชำนาญ และความเข้าใจในการแก้ปัญหาสำหรับความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละกรณี เช่นเดียวกับสาขาวิชาอื่นที่ต้องสั่งสมประสบการณ์ เช่น แพทย์ วิศวกร ทนายความ ที่มีการฝึกปฏิบัติก่อนไปประกอบอาชีพ ซึ่งย้ำให้เห็นว่าการอ่านหนังสือด้านไอทีเล่มหนึ่งอาจต้องใช้เวลาทดลองทฤษฎีในเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นสัปดาห์ ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเพื่อนที่ร่วมเรียนรู้ในอินเทอร์เน็ตที่แบ่งปันประสบการณ์จากการลองผิดลองถูก จึงจะเข้าใจหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งได้ชัดเจนไปอีกระยะหนึ่ง และต้องกลับมาทบทวนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้หลงลืมรายละเอียด หรือติดตามการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกที่อาจมีผลกระทบต่อความรู้ในอดีต
ดังนั้นนักศึกษาด้านไอที จึงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ขลุกอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ หลังจากเรียนทฤษฎีจากชั้นเรียนก็ต้องไปทดลอง ทำงานที่มอบหมาย ฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ เรียนรู้เพิ่มเติมจากข้อมูลที่พบได้ในอินเทอร์เน็ตซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในทางทฤษฎีนักศึกษาด้านไอทีไม่มีเวลาให้กับเว็บไซต์ด้านบันเทิง หรือสนทนาผ่านโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นมากนัก เพราะมีองค์ความรู้มากมายให้ต้องศึกษา เช่น ระบบปฏิบัติการแต่ละประเภท ภาษาโปรแกรมที่มีรุ่นใหม่ให้ต้องเรียนรู้เพิ่ม ระบบฐานข้อมูลที่ต้องสร้างกรณีศึกษาให้ตนเองได้เรียนรู้ ระบบเครือข่ายในบ้าน การสร้างภาพกราฟฟิกที่กลายเป็นความสามารถพื้นฐานของนักคอมพิวเตอร์ การจัดการแฟ้มดิจิทอล (Digital File) ที่มีลักษณะเป็นสื่อมัลติมีเดีย (Multimedia) สำหรับอุปกรณ์ที่หลากหลาย การศึกษาแต่ละเรื่องต้องใช้เวลา นักศึกษาด้านไอทีจึงมักขลุกอยู่แต่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์อาจทำให้ความสัมพันธ์ด้านสังคมเกิดความบกพร่องลงได้ เพราะเป็นสัจธรรมที่ว่าการได้สิ่งใดมา ก็ย่อมต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่งไป
จากคุณ :
บุรินทร์
.
01:00am (2/09/07)